Page 39 - UdomsarnMJan_2019
P. 39

......เพราะเหตุนี้มนุษย์เราจึงใช้เวลา:

                          -  20 ปี  ในการเรียนหนังสือหาความรู้
                          -  40 ปี  ในการท�างาน (เหมือนกระบือ)

                          -  10 ปี  ในการดูแลหลาน เล่นกับหลาน (เหมือนลิง)
                          -  10 ปี  ในการนั่งอยู่หน้าบ้าน เป็นมิตรพูดคุยกับคนที่เดินผ่านไปมา และเ½‡าบ้าน (เหมือนสุนัข)


                          แต่ไม่ว่าเราแต่ละคนจะมีอายุเท่าไรก็ตาม  เราสามารถส�านึกตระหนักเสมอว่า  ชีวิตนี้เป็นพระพร
                   อันประเสริ°สุดที่พระเจ้าได้ทรงประทานให้เรา  และไม่ว่าชีวิตของเราจะอยู่ในช่วงใดก็ตาม  เราสามารถ
                   ด�าเนินชีวิตอย่างมีชีวิตชีวา (enthusiasm = en ใน + Theos พระเจ้า) ในพระองค์


                          -  ถ้าเรายังเป็นนักเรียน  นิสิต  นักศึกษา  เราสามารถเรียนหนังสือ  แสวงหาความรู้  เพื่อที่จะรู้
                   รู้จักและรักพระองค์

                          - ถ้าเราโตเป็นผู้ใหญ่ มีอาชีพการงานแล้ว เราสามารถประกอบอาชีพท�างาน ท�าหน้าที่ของตนด้วย
                   ดีด้วยความส�านึกว่า งานที่เราท�าประจ�าทุกวันนั้นเป็นการ “ต่องาน” ของพระเจ้า เป็นการน�าเหรียญตะลันต์

                   ที่พระองค์½ากเราไว้ให้เกิดดอกออกผลมากขึ้น ไม่ใช่ไป½ังดินทิ้งไว้
                          -  ถ้าเราอาวุโสมากขึ้น เป็นใหญ่เป็นโต มีต�าแหน่งสูงขึ้น เราก็ส�านึกอยู่เสมอว่า อ�านาจที่มีนั้นมาจาก

                   พระเจ้าทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเราจึงควรใช้อ�านาจนั้นอย่างดี อย่างมีความยุติธรรม อย่างมีเมตตาธรรม
                          -  เมื่อเราแก่ตัวลง เราก็เป็นผู้ที่เต็มเปี›ยมด้วยปรีชาญาณที่สั่งสมกลั่นกรองจากประสบการณ์ชีวิต

                   ของเรา นับสิบæ ปี เป็นของขวัญ เป็นพระพรที่พระเจ้ามอบให้เรา พระพรนี้เป็นสิ่งที่เราจะมอบเป็นมรดก
                   ให้แก่ลูกหลานต่อไป เพื่อว่าคุณภาพชีวิตกายและคุณภาพชีวิตจิตของชนรุ่นหลังจะดีกว่ารุ่นก่อนæ เสมอไป

                   แต่ไม่ว่าเราขณะนี้จะมีอายุเท่าไร และจะมีอายุยืนยาวต่อไปอีกนานเท่าไร ชีวิตนี้ก็เป็น พรประเสริ°ที่พระเจ้า
                   ประทานให้เราแล้วเสมอ และความจริงในระยะเวลานับเป็นสิบæ ปีนี้ ประกอบด้วย 3 วันเท่านั้น คือ

                          “วันนี้” วันนี้ที่มีชีวิตชีวา (enthusiasm = en ใน + Theos พระเจ้า) วันในพระเจ้าซึ่งจะ

                   กลายเป็น.....

                          “เมื่อวาน” ที่น่าจดจ�าด้วยความชื่นชม ขอบคุณ (Joy and Thanks) และ
                          “วันนี้” อีกเช่นกัน ก็คือ.......

                          “พรุ่งนี้” เมื่อมาถึง.... “พรุ่งนี้” ที่เปี›ยมไปด้วยความหวัง และ ความยินดี (Hope and Joy)

                   เพราะเหตุนี้ ถ้าเราท�าทุก “วันนี้” ให้เป็น “วันดี” ทุกæ วัน ชีวิตนี้ก็จะเป็นชีวิตที่ “จริง ดี สวยงาม” (True
                   - Good - Beautiful) ตลอดไป









                                                                                         ÍØ´ÁÈÒ¹µ Á¡ÃÒ¤Á 2019  37



          crist 1-80 Jan 62.indd   37                                                               12/21/2561 BE   22:21
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44