Page 51 - UdomsarnMJan_2019
P. 51
หากเราไม่เชื่อเขา ไม่คล้อยตามเขา เขาก็ไม่พอใจและ อะไรค้างคาใจ ค�าพูดไม่ดีผ่านมาก็ควรผ่านไป ดิฉัน
ดุด่า หลายต่อหลายครั้งที่ต่อว่าแบบไม่ไว้หน้า ตัวดิฉัน พยายามคิดถึงข้อดีของเขาและในที่สุด “เวลา” เท่านั้น
พยายามท�าใจและบอกกับตัวเองว่า “ช่างเถอะæ อย่า แหละ ที่จะช่วยบรรเทาจิตใจของเราให้หายขุ่นเคือง
ถือสาหาความ ... อภัยให้เขา เราสบายใจ ... เฉยæ เราชนะใจตัวเองเพื่อให้อภัยเขา โดยเราจะเป็น½†ายโทร
ไปเลยจะดีกว่า” ไปหาเขาก่อน หากมองจากบางมุมดูเหมือนเราไร้ค่า
ช่วงระยะหลังæ มานี้ ดิฉันค่อยæ ถอยห่าง แต่พอเราโทรศัพท์ไปและพอได้ยินเสียงของเขาที่
ออกมา เพราะขาดความมั่นใจ และส�าหรับความรู้สึก ทักทายกลับมาด้วยความร่าเริงยินดี หัวใจเราก็ยินดี
ดีæ ที่เคยมีต่อกันนั้น ตอนนี้ดูเหมือนจืดจางลง กลาย กับเขาด้วย เขาบอกว่า “เขาสบายดี สุขกายสุขใจ”
เป็นคนแปลกหน้า ไม่อยากได้ยินเสียง ไม่อยากได้ยิน เราได้ยินเขาพูดอย่างนี้ และเพียงแค่นี้เราก็ดีใจแล้ว
เรื่องราวของเขา ดิฉันเสียดายมิตรภาพที่สร้างขึ้นมา เวลาที่เกิดการติดขัดหรือขัดแย้ง ไม่เข้าใจ
ด้วยความยากล�าบาก นี่แหละชีวิต เพราะเมื่อขาด กัน จึงอยากเสนอว่า ให้เราลองหยุดนิ่ง และต่าง½†าย
ความรัก ความขัดแย้งก็บังเกิดขึ้น แต่ก็เชื่อว่าถ้าคน ต่างถอยกันคนละก้าว ต่างคนต่างกลับไปพิจารณา
เรามีความรัก ก็คงจะระวังค�าพูดหรือการกระท�า โดย ไตร่ตรอง ให้เวลากับสิ่งนั้นสักระยะหนึ่ง แล้วค่อยæ
เฉพาะกับคนในครอบครัว คนที่เรารัก และคนที่เรา กลับมาพูดคุยกันใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะจบลงด้วยดี
ปรารถนาดี ประสบการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้เสมอในการใช้ชีวิตใน
ดิฉันเก็บความขมขื่นและเสียใจกับเรื่องนี้ แต่ละวัน ดิฉันเข้าใจถึงการที่ คนเราต้องยอมลดทิ°ิ
ไว้นาน ไม่อยากโทรศัพท์ไปหาเขา เพราะไม่อยาก ในตัวเราแล้วเราจะเห็นว่าโลกนี้น่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ การ
ได้ยินค�าพูดอะไรæ ที่มันทิ่มแทงจิตใจ แต่ก็คิดเสมอ ชนะใจตนเองเป็นสิ่งประเสริ°จริงæ
ว่า การที่เขาหายจากโรคและได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ ดิฉันพยายามถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิต
ได้ไปเที่ยวเพลิดเพลิน ออกไปไหนมาไหนได้ทุกวัน เล็กæ น้อยæ เหล่านี้ให้กับลูกæ หลานæ และสอน
ก็นับว่าดีที่สุดแล้ว พระเจ้าทรงเมตตาเขาแล้ว แต่ก็ ใส่ใจในเรื่องการพูดการจา การแสดงความรัก และ
แอบน้อยใจนิดหนึ่งว่า ท�าไมเขาถึงไม่แคร์ความรู้สึก ความเมตตาต่อผู้อื่น อย่างไรก็ดีเราทุกคนคงได้พบ
ของเราบ้างเลย จึงตัดใจ “ถอยกันคนละก้าว” เหมือน เจอกับประสบการณ์ในเรื่องราวของการพูดจา และยิ่ง
ได้พักกายพักใจด้วยกันทั้งสอง½†าย เราอยู่ในสังคมวงกว้างมากเท่าใด ยิ่งต้องระมัดระวัง
แต่จริงæ แล้วลึกæ ในใจ ดิฉันก็ยังอยากชนะ เรื่องการพูดจาให้มากที่สุด เพราะผู้รับฟังนั้นมีหลาก
ใจตนเองด้วย แม้รู้ว่าตัวเองไม่ผิด แต่เราจะยอมเป็น หลาย ฉะนั้นก่อนจะพูดสิ่งใดออกไปควรไตร่ตรอง
½†ายเริ่มไปง้อขอคืนดีกับเขาก่อน ซึ่งเขาก็จะไม่รู้เลย ให้ดี
ว่าเขาท�าตัวไม่ถูกต้อง ไม่ระวังค�าพูด หรือใช้ค�าพูด เราควรปลูก½ังเรื่องการพูดให้ดีæ พูดสิ่งที่
ท�าร้ายจิตใจคนอื่น ตัวเราเองก็คงไม่มีทางไปแก้นิสัย เป็นประโยชน์ พูดให้ก�าลังใจ เพราะวันหนึ่งข้างหน้า
ของเขาได้ เพราะเราต่างก็อายุมากด้วยกันแล้ว หรือเรา เมื่อพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาจะได้น�าสิ่งดีæ รวม
คงท�าได้แค่ประคับประคอง ผ่อนหนักผ่อนเบา และ ถึงการพูดและการกระท�าดีæ ไปสู่สังคมส่วนรวม ดิฉัน
ยอมæ กันไปเท่าที่จะสามารถท�าได้ อยากบอกว่า เรามีเวลาเหลืออีกไม่มาก ควรก้าวเข้าหา
ดิฉันคิดอยู่นาน ในที่สุดต้องตัดใจตนเอง กัน เอื้ออาทรต่อกัน ใส่ใจต่อกัน เท่านี้โลกก็กลายเป็น
บอกกับตัวเองว่า เราต้องเปดใจกว้าง เราต้องไม่มี สวรรค์ทันตาเห็นเลยค่ะ
ÍØ´ÁÈÒ¹µ Á¡ÃÒ¤Á 2019 49
crist 1-80 Jan 62.indd 49 12/21/2561 BE 22:21